Cryptointrend
bitcoin0000

5 ปัจจัยความเสี่ยงของการลงทุนในบิตคอยน์ที่มือใหม่ต้องรู้

แม้ว่าการลงทุนบิตคอยน์จะได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง บิตคอยน์ก็ด้วยเช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการเทรดหรือการขุด สิ่งที่ต้องระวังคือเรื่องของปัจจัยความเสี่ยงที่มีมากไม่ต่างกัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้คุณต้องสูญเสียเงินลงทุนเป็นจำนวนมากถ้ารู้ไม่ทัน โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนมือใหม่ที่อาจจะยังตามกระแสตลาดไม่ค่อยทัน ดังนั้นถ้าคุณเป็นมือใหม่หัดเทรดบิตคอยน์ คุณต้องรู้ว่ามีปัจจัยใดบ้างที่เป็นความเสี่ยงและอาจทำให้ตลาดผันผวนหนักได้ โดยจะมี 5 ปัจจัยหลักที่คุณควรจดจำและศึกษาให้ละเอียด คือ

1.การเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐ

ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือที่ถูกเรียนสั้นๆ ว่า “เฟด” ถือเป็นเจ้าใหญ่แห่งการเงินโลก เพราะไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดๆ  ขึ้นกับธนาคารแห่งนี้ นอกจากจะเป็นการชี้วัดเรื่องเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว ยังชี้วัดไปถึงเศรษฐกิจโลกด้วย  เมื่อใดที่ธนาคารแห่งนี้มีข่าวใดๆ ที่เกี่ยวกับการเงินออกมาก็มักจะส่งผลต่อตลาดการลงทุนได้ทั้งหมด หนึ่งในนั้นคือตลาดบิตคอยน์ ยิ่งถ้าเป็นการประกาศเพื่อเพิ่มหรือลดดอกเบี้ยด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ธนาคารกลางของประเทศอื่นๆ ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อปรับดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้าคุณต้องการลงทุนตลาดบิตคอยน์ให้ได้กำไรดี จึงต้องตามข่าวของธนาคารกลางสหรัฐฯ อยู่เสมอ เมื่อใดที่เกิดข่าวไม่ดี เมื่อนั้นก็รีบถอนทุนคืนได้เลย

2.เงินเฟ้อของประเทศใหญ่

เงินเฟ้อเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ทำให้ตลาดการลงทุนมีความผันผวนสูง แม้แต่ตลาดบิตคอยน์เองก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาเงินเฟ้อด้วยเช่นกัน ซึ่งคุณต้องติดตามข่าวเงินเฟ้อของประเทศใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ที่มักจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก รวมไปถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน เพราะเงินเฟ้อนั้นไม่ได้ส่งผลแค่ในประเทศแต่อาจจะส่งผลในวงกว้างไปอีกหลายประเทศทั่วโลก จึงควรสังเกตว่าเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นเป็นไปในระดับใด ถ้าอยู่ในระดับสูงไม่ควรเสี่ยงต่อการลงทุน แต่ถ้าอยู่ในระดับปานกลางก็สามารถลงทุนได้ตามปกติ เพียงแต่จะต้องตามข่าวการเงินเป็นประจำ

3.การฟอกเงินผิดกฎหมาย

อีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะทำให้คุณต้องจับตามองตลาดบิตคอยน์ให้ดี คือ เรื่องของการฟอกเงินแบบผิดกฎหมาย สำหรับนักลงทุนบางรายอาจมีการทำธุรกิจสีเทาหรือธุรกิจมืด แล้วทำการฟอกเงินของตัวเองให้กลายเป็นเหรียญบิตคอยน์ด้วยการลงทุนแบบเทรดในหลากหลายสถาบัน ซึ่งนอกจากจะเกิดปัญหาเรื่องการตรวจสอบบัญชีของภาครัฐแล้ว อาจจะนำมาซึ่งการปั่นกระแสตลาดภายในของวงการบิตคอยน์ที่จะทำให้ตลาดผันผวนหนัก นอกจากนี้ทางบิตคอยน์เองยังอาจจะมีการล้างกระดานใหม่ เพื่อตรวจสอบเหล่าผู้ฝากเหรียญผิดกฎหมายอีกด้วย จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่น่าจับตามองเลยทีเดียว

4.สถานการณ์เศรษฐกิจโลก

เรื่องนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก โดยเฉพาะภายในประเทศที่ร่วมกับการลงทุนบิตคอยน์อย่างชัดเจน ถ้ามีสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศไม่สู้ดีแล้วส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก ตลาดบิตคอยน์จะยิ่งมีปัญหาสูง ดังเช่นประเทศใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาที่ถือว่าเป็นประเทศแกนหลักในการลงทุนบิตคอยน์ เมื่อเกิดปัญหาเศรษฐกิจก็มักจะส่งผลต่อตลาดของบิตคอยน์อยู่เสมอ เนื่องมาจากเหรียญบิตคอยน์จะอิงกับเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการผันผวนของตลาดจึงมีสูงไปด้วย คุณจึงควรที่จะต้องติดตามข่าวสารของเศรษฐกิจโลกในประเทศต่างๆ ที่มีการให้อนุญาตเทรดบิตคอยน์อย่างถูกกฎหมายให้ดี เพราะถ้าประเทศเหล่านั้นมีปัญหา ตลาดของบิตคอยน์ย่อมมีปัญหาตามไปด้วยแน่นอน

5.สถานการณ์โลก

สถานการณ์โลก คือ การเกิดเหตุการณ์วินาศกรรม, การก่อการร้าย, ภัยจากโรคระบาด และภัยจากธรรมชาติ ที่ถือว่าเป็นเหตุการณ์ใหญ่ในระดับโลก มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากหรือสร้างความเสียหายให้กับประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นพิเศษ จะส่งผลกระทบต่อทุกการลงทุนอย่างแน่นอน แม้แต่ในตลาดบิตคอยน์เองก็ถูกผลกระทบเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ดังเช่นสถานการณ์ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นติดต่อกันในหลายประเทศของโซนเอเชีย ทำให้ช่วงเวลาหนึ่งกราฟบิตคอยน์ดิ่งลงเหวติดต่อกันหลายวันเลยทีเดียว หรือแม้แต่การระเบิดครั้งใหญ่ที่เลบานอนก็มีส่วนส่งผลกระทบต่อการลงทุนเหรียญบิตคอยน์และเหรียญคริปโตฯ อื่นๆ ภายในตลาดมากพอสมควรเลยทีเดียว

ถ้าคุณเป็นมือใหม่หัดลงทุนบิตคอยน์ คุณควรติดตามทั้ง 5 ปัจจัยหลักนี้ให้ดีและมีการศึกษาข้อมูลกับรายละเอียดต่างๆ อยู่เสมอ รวมถึงการติดตามข่าวสารทั่วโลก เพื่อที่คุณจะสามารถนำมาวิเคราะห์และรู้ว่าเวลาใดที่ควรลงทุน เวลาใดที่ควรถอนทุนคืนหรือขายทิ้ง เพียงเท่านี้คุณก็จะมีประสบการณ์ของการเทรดบิตคอยน์ที่แม่นยำมากขึ้น

Satoshi

ไม่ได้เป็นคนสร้าง Bitcoin แต่เป็นหนุ่มน้อยที่มีจุดหมายอย่างแรงกล้า
จะเป็น Pokemon Trainer อันดับ 1 ของโลก โดยมีโปเกม่อนคู่ใจคือ Pikachu!

คอมเมนต์

four × 1 =

บทความล่าสุด