Crypto จะช่วยโคลัมเบียจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำได้หรือไม่?

ความรุนแรงในโคลอมเบียที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในเดือนเมษายนและพฤษภาคมที่ผ่านมา ถือเป็นสัญญาณเตือนว่ารัฐบาลโคลอมเบียอาจไม่มีอำนาจหรืออำนาจในการหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง หรือแย่กว่านั้นคือวิกฤตหนี้ ภาพจำลองนี้ทำให้ชาวโคลอมเบียต้องทบทวนวิธีจัดการทรัพย์สินของตนอีกครั้ง

หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของประเทศ Superfinanciera เพิ่งอนุมัติโครงการนำร่อง 12 เดือน ซึ่งจะช่วยให้ชาวโคลอมเบียดำเนินการเงินสดเข้าและออกเงินสดผ่าน Movvi และ Bitpoint ผู้ใช้แพลตฟอร์มจะสามารถแลกเปลี่ยน โอน และดำเนินการโดยใช้เปโซโคลอมเบียหรือคริปโตได้

โคลอมเบียเร่งการยอมรับ crypto ในประเทศอย่างไร

บริษัทแลกเปลี่ยน crypto ของชิลี Buda.com รายงานว่าปริมาณการซื้อขาย crypto ในโคลอมเบียในช่วงไตรมาสแรกของปี 2021 มากกว่าปริมาณการซื้อขายทั้งหมดในปี 2020 และนอกจากนี้ Chainalysis ได้จัดอันดับโคลัมเบียที่อันดับ 9 จาก 10 ประเทศที่มีแนวโน้มว่าจะใช้คริปโตด้วย

ร้อยละ 23 ของประชากรโคลอมเบียยังคงไม่มีบัญชีธนาคาร หรืออยู่นอกระบบนิเวศทางการเงินของรัฐบาล ในอดีตนั้น การนำสกุลเงินดิจิทัลของโคลอมเบียไปใช้นั้นนำโดยผู้อพยพที่สนใจในสกุลเงินดิจิทัล เพื่อการโอนเงินอย่างมีประสิทธิภาพผ่านช่องทางที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิม

ด้วยหนี้สินที่เพิ่มขึ้นและการขาดดุลทางการคลังที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การปรับเปลี่ยนทางการเงินกำลังดำเนินไป เนื่องจากชาวโคลอมเบียจำนวนมากขึ้นพิจารณาที่จะนำทรัพย์สินของตนไปไว้ในพื้นที่ของสกุลเงินดิจิทัล

โคลอมเบียเป็นตัวอย่างที่สำคัญของประเทศที่มีรัฐบาลที่อ่อนแอ ซึ่งการนำ crypto มาใช้สามารถทำให้ระบบการเงินแบบเดิมนั้นยุ่งเหยิงและต้องปฏิวัติ

ดังนั้นทำให้ชาวโคลอมเบียอาจมองว่า crypto เป็นการป้องกันความเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่อสกุลเงินดั้งเดิมของประเทศ เนื่องจากความกลัวทางเศรษฐกิจและสังคมทำให้เกิดความสนใจในสกุลเงินดิจิทัล ความกลัวเหล่านั้นก็แสดงออกมาในรูปแบบของการประท้วงและแม้กระทั่งการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างพลเมืองโคลอมเบียและกองกำลังทหาร

โคลอมเบียได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ ในละตินอเมริกา จากโควิด-19 และด้วยคุณภาพของการแจกจ่ายเงินที่จำกัด รัฐบาลพบว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบรรเทาทุกข์เมื่อเกิดโรคระบาด โดยประธานาธิบดีของประเทศเองก็กำลังหาทางในการปฏิรูปโครงสร้างภาษีด้วย

ผลักดันให้ชาวโคลอมเบียใช้ crypto มากขึ้น

โควิด-19 บังคับให้เขาทำสิ่งที่คิดไม่ถึงด้วยการเปิดตัว “Ingreso Solidario” ซึ่งเป็นโครงการสนับสนุนทางการเงินของรัฐบาลที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือประชากรที่ยากจนที่สุดของประเทศจำนวนสามล้านคน หรือคิดเป็นประมาณ 6% ของประชากรทั้งหมดของประเทศ ประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับวิธีที่รัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชย

ข้อเสนอด้านภาษีของประธานาธิบดีเพื่อให้ครอบคลุมโครงการสนับสนุนทางการเงินเพิ่มภาษีขึ้น 1.5% ซึ่งตรงกันข้ามกับคำมั่นสัญญาในการหาเสียงของประธานาธิบดี หนี้ที่ถดถอยของโคลอมเบียและการขาดดุลทางการคลังทำให้เรตติ้งอันดับโลก S&P Global ลดลงจาก BBB-minus เป็น BB-plus ทำให้ ประธานาธิบดี Duque ต้องถอนร่างกฏหมายออกไปก่อน

ซึ่งหากเรากลับมาตอบคำถามที่ว่า ทำไมโคลอมเบียจึงเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็วสำหรับการยอมรับสกุลเงินดิจิทัล

การประท้วงและความรุนแรงที่แพร่หลายในโคลอมเบียเป็นสัญญาณเตือนว่ารัฐบาลโคลอมเบียอาจไม่มีอำนาจหรือประสิทธิภาพในการป้องกันภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง และต้องเจอกับวิกฤตหนี้ในประเทศ

ในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน รัฐบาลโคลอมเบียไม่สามารถรักษาท่าเรือที่สำคัญที่สุดของประเทศที่ Buenaventura ซึ่งอยู่ทางมหาสมุทรแปซิฟิกได้ โดยที่การส่งออกของโคลอมเบีย (ส่วนใหญ่เป็นกาแฟและน้ำตาล) ถึง 32%

โดยหลายปีผ่านไป หากถ้าประชาชนหมดศรัทธาในรัฐบาล จะสูญสิ้นศรัทธาในสกุลเงินได้เร็วแค่ไหน?

ในขณะที่ชาวโคลอมเบียใช้ crypto มากขึ้น รัฐบาลก็กำลังสร้างกฎเกณฑ์และออกแนวทางภาษี crypto และกฎระเบียบต่อต้านการฟอกเงิน นอกจากนี้หน่วยงานทางการเงิน Superintendencia Financiera de Colombia ของโคลอมเบียเพิ่งเปิดตัวการทดลองนานหนึ่งปีที่ช่วยให้บริษัทเก้าแห่งสามารถฝากและถอนทรัพยากรในนามของแพลตฟอร์มคริปโตได้ นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดและจำเป็นของรัฐบาลโคลอมเบีย ซึ่งอาจใช้เป็นแบบจำลองสำหรับประเทศอื่น ๆ เนื่องจากแนวโน้มของสกุลเงินดิจิทัลยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่จะเพียงพอหรือไม่นั้นคงต้องรอดูกันต่อไป

LINK ที่มา