ในการอัปเดตถึงการพัฒนาครั้งล่าสุดของสกุลเงินหยวนดิจิทัล ธนาคารเอกชนสองแห่ง คือ MyBank ของ Ant Group และ WeBank ของ Tencent ได้รับการเกณฑ์ให้เข้าร่วมการทดลองเงินหยวนดิจิทัล โดยสองบริษัทนี้จะเป็นบริษัทฟินเทคสมัยใหม่ 2 แห่งแรกที่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการทดลองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว
ผู้ใช้ชาวจีนที่มีบัญชี WeBank และ MyBank จะสามารถเข้าถึงผ่านแอปกระเป๋าเงินหยวนดิจิทัลที่ดำเนินการโดยธนาคารกลางได้ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งข่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Ant Group มีรายงานว่าบรรลุข้อตกลงกับหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อปรับโครงสร้างเป็นบริษัทโฮลดิ้งทางการเงิน จีนประสบปัญหาการปราบปรามฟินเทคและบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง
การเข้าร่วมของธนาคารเอกชนเหล่านี้จะช่วยให้การเข้าถึงเงินหยวนดิจิทัลในกลุ่มผู้ใช้ชาวจีนมีจำนวนมากขึ้น โดยพิจารณาจากส่วนแบ่งการตลาดของตลาดการชำระเงินดิจิทัลของจีน Alipay ของ AntGroup และ WePay ของ Tencent ร่วมกันถือครองตลาดการชำระเงินดิจิทัลที่เฟื่องฟูของจีนมากกว่า 93%
การย้ายไปรวมกับธนาคารเอกชนชั้นนำในตลาดการชำระเงินดิจิทัลครั้งนี้ ได้ระงับการคาดเดาทั้งหมดว่าแรงจูงใจหลักของธนาคารกลางของจีน คือการควบคุม “การผูกขาด” ในตลาดการชำระเงินที่ธนาคารทั้งสองแห่งนี้มีอยู่
พวกเขาเป็นผู้นำในตลาดการชำระเงินที่เติบโตอย่างรวดเร็วซึ่งนำไปสู่การเติบโตของผู้ใช้ 289% ภายในสี่ปี การเติบโตนี้คือ 147.2 ล้านผู้ใช้ในปี 2017 เป็น 573.6 ล้านคนในปี 2021 และในจำนวนนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 618 ล้านผู้ใช้ภายในปี 2025 ตามการวิจัยของ Statista
แม้ว่าการทดลองหยวนดิจิทัลของจีนจะเริ่มขึ้นครั้งแรกใน 5 จังหวัดอย่างเซินเจิ้น ซูโจว เซียงอาน เฉิงตู และสถานที่จัดโอลิมปิกในอนาคต แต่ขณะนี้เริ่มมีการพิจารณาในการทดลองเปิดใช้งานกับยังเมืองใหญ่ ๆ เช่นกัน
โดยในขณะนี้มีตู้จำหน่ายสินค้าในสถานีรถไฟใต้ดินเซี่ยงไฮ้ที่ยอมรับการชำระเงินด้ยจสกุลหยวนดิจิทัลแล้ว ซึ่งแสดงว่าเงินหยวนดิจิทัลอยู่ในขั้นตอนการส่งเสริมการใช้งานภายในเมือง
การพัฒนาอย่างรวดเร็วเหล่านี้ทำให้จีนกลายเป็นประเทศเศรษฐกิจหลักแห่งแรกที่มีโครงการ CBDC ที่ใช้งานได้ ซึ่งเป็นผู้นำในการแข่งขันสำหรับ e-currency ที่เพิ่มขึ้นในเอเชียและทั่วโลก
LINK ที่มา
คอมเมนต์