ด้วยกฎระเบียบที่ชัดเจนและการแข่งขันระหว่างธนาคารกลางเพื่อพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลในเอเชีย จะทำให้พวกเขาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม cryptocurrency ในปี 2020 ในขณะที่ประเทศทางตะวันตกยังตกอยู่ภายใต้ระบบราชการของตัวเอง
อุตสาหกรรม cryptocurrency เพิ่งจะผ่านมาหนึ่งทศวรรษ ทุกวันนี้ประเทศในแถบเอเชียและภาคตะวันออกกำลังกลายเป็นศูนย์กลางของเงินดิจิทัลและบล็อกเชน ในขณะที่สหรัฐฯกำลังจะเป็นฝ่ายล้าหลังบ้างแล้ว
ผู้นำอุตสาหกรรมในสกุลเงินดิจิทัลในเอเชีย
หนึ่งในประเทศที่มีการพัฒนาไม่หยุดอย่างสิงคโปร์ กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับบริษัท Fintech ในการเข้าถึงตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีสัดส่วนกระจัดกระจายอยู่ราว 600 ล้านคน
Liu Tianwei ซีอีโอของ Xfers ระบุว่าในปี 2020 นับเป็นจุดเริ่มต้นของสินทรัพย์คริปโตที่จะกลายเป็นประเภทสินทรัพย์ กรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจนในภูมิภาคอาเซียนจะยังคงดึงดูดนวัตกรรมและการพัฒนาบล็อกเชนต่อไป
รัฐบาลจีนผลักดัน blockchain ในทุกระดับ และจะช่วยเพิ่มความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทั่วเอเชียด้วย
Bobby Ong ผู้ร่วมก่อตั้ง CoinGecko
“ แนวโน้ม DeFi จะดำเนินต่อไปได้ดีในปีนี้ แพลตฟอร์ม multi-chainจะเป็นที่นิยมมากขึ้น และ BTC ของครึ่งปีนี้จะมีความผันผวนมากขึ้น”
Matthew Tan, ผู้ก่อตั้ง Etherscan
เบื้องหลังของความไม่แน่นอนระดับโลกจะส่งผลให้รัฐบาลเข้ามาในพื้นที่ด้วยสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC)
ธนาคารกลางแห่งเอเชีย
ประเทศจีนเป็นผู้นำการแข่งขันนี้ และด้วยห้าปีของการวิจัยและพัฒนามาก่อนแล้ว ก็มีแนวโน้มสูงที่จะเป็นประเทศแรกที่เปิดตัว CBDC
ในวันที่ 1 มกราคมมีการออกกฎหมายใหม่ที่ควบคุมการจัดการรหัสผ่านการเข้ารหัสซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อลดช่องโหว่ไซเบอร์ของจีนในระดับประเทศ
โดยมีรายงานบอกว่าเป็นกฎหมายใหม่ สำหรับปูทางให้การเปิดตัวของสกุลเงินหยวนดิจิทัล ธนาคารประชาชนจีนกำลังดำเนินการอย่างราบรื่นด้วยการพัฒนาระบบคริปโตที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ
แต่ก็ไม่ใช่แค่จีนประเทศเดียว เพราะยังมีทั้ง เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น ที่มีเอกสารตีพิมพ์เกี่ยวกับการวิจัยสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางอยู่ด้วย
แสดงให้เห็นว่าผู้นำที่ชัดเจนในอุตสาหกรรมในขณะนี้ล้วนอยู่ในเอเชีย และมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปในปีนี้ หากฝั่งตะวันตกยังอยู่ในกฏระเบียบที่ไม่ชัดเจนแบบนี้ต่อไป
คอมเมนต์