ตามดูสถานการณ์ ก.ล.ต. ลงดาบ Binance กรณีเปิดรับเทรดในไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
Binance ถือว่าเป็นหนึ่งในเว็บ Exchange ที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกจำนวนมาก เพราะได้รับความไว้วางใจจากการเป็นหนึ่งในระบบของเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ชื่อดังอย่าง Ethereum พร้อมการมีระบบใช้งานช่วยทำให้การซื้อ-ขายเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีบริการหลากหลายด้านและมีการลงทุนที่สามารถเลือกได้ตามความต้องการของนักเทรด แต่ด้วยความที่เป็นเว็บ Exchange ต่างชาติ เมื่อเข้ามาให้บริการในประเทศไทยแล้ว ต้องมีการขออนุญาตจาก ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ก่อน แต่ทั้งนี้ทาง Binance ยังไม่มีการขออนุญาตแต่อย่างใด จึงทำให้เป็นประเด็นเรื่องที่ ก.ล.ต. จะลงดาบไม่ให้ Binance สามารถทำธุรกิจภายในประเทศไทยได้ แล้วกลายเป็นข่าวที่นักเทรดเหรียญของไทยต่างก็จับตามองกันเป็นอย่างมาก
สถานการณ์ ก.ล.ต. ลงดาบ Binance แบบอัพเดท
แม้ว่าจะทำให้นักเทรดเหรียญของไทยรู้สึกดีใจอยู่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ที่เว็บ Exchange ชื่อดังอย่าง Binance เข้ามาให้บริการภายในประเทศไทย พร้อมการจัดทำเว็บไซต์และระบบภายในที่เป็นภาษาไทยทั้งหมด ทั้งยังมีข่าวว่าจะมีเจ้าหน้าที่เป็นคนไทยคอยให้คำปรึกษาเรื่องขั้นตอนการสมัครและการเข้าใช้งานระบบภายในอีกด้วย แต่นักเทรดเหรียญชาวไทยดีใจได้ไม่นาน กลับมีข่าว ก.ล.ต. ลงดาบไม่ให้ Binance นั้นสามารถทำธุรกิจ Exchange เหรียญคริปโตเคอเรนซี่ในไทยได้ เนื่องมาจากการเข้ามาของเว็บไซต์ Binance ไม่มีการขออนุญาตกับทาง ก.ล.ต. มาก่อน
จึงทำให้ทาง ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Binance ในเรื่องนี้ พร้อมส่งเรื่องสู่กองบังคับการปราบปรามการทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. ที่จะตรงตามพระราชกำหนด ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ปี พ.ศ. 2561 หรือที่ถูกเรียกว่า พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง ก.ล.ต. ได้มีการเตือนนักลงทุนมาแล้วล่วงหน้า เพราะกังวลว่าจะถูกหลอกลวงจากการลงทุนบนเว็บ Binance ได้ เนื่องมาจากทางเว็บไซต์ไร้ซึ่ง License ในการยื่นสินทรัพย์ดิจิทัล จึงอาจทำให้เกิดปัญหาการลงทุนในอนาคตได้
เมื่อมีการยื่นข้อกล่าวหาไปแล้ว จึงมีรายละเอียดออกมาชัดเจนว่าทางเว็บไซต์ Binance และ Facebook Fanpage Binance Thai community เริ่มมีการทำระบบเพื่อจับคู่ผ่านทางเว็บไซต์แล้ว มีการชักชวนประชาชนทั่วไปเพื่อการลงทุนเข้าใช้บริการ แม้จะมีการยื่นหนังสือของทาง Binance เพื่อชี้แจงกับทาง ก.ล.ต. แล้ว แต่เป็นการส่งหนังสือแจ้งที่เกินระยะเวลากำหนดไว้ ทั้งยังไม่ได้รับใบอนุญาตใด ๆ แต่กลับฝ่าฝืนให้มีการใช้แพลตฟอร์มเพื่อการลงทุนอย่างเห็นได้ชัด จึงถือว่ากระทำความผิดตามมาตรา 26 และต้องมีโทษตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.ก.ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยจะต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี และปรับที่ 200,000-500,000 บาท พร้อมปรับรายวันอีกไม่เกิน 10,000 บาทตลอดเวลาของการฝ่าฝืน ซึ่งยังอยู่ในการพิจารณาตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ส่วนความกังวลของผู้ที่เข้าใช้งานซื้อ-ขายแพลตฟอร์มของ Binance ไปแล้ว ทางก.ล.ต. ได้มีการตอบคำถามไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ประชาชนรู้สึกกังวลว่าตนเองได้ใช้แพลตฟอร์มของ Binance แล้วจะมีความผิดด้วยหรือไม่? ซึ่งทาง ก.ล.ต. ได้ตอบว่าผู้ที่ซื้อ-ขายกับเว็บ Binance หรือใช้งานแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไปแล้ว จะไม่มีความผิด แต่ถ้าเกิดการโกงเงินจากทาง Binance จะไม่ได้รับสิทธิ์คุ้มครองใด ๆ ตามกฎหมายของไทย ซึ่งการกล่าวโทษในครั้งนี้จะถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการบังคับใช้กฎหมายทางอาญา เป็นการพิจารณาว่าทำผิดตามขั้นตอนจริงหรือไม่ และจะต้องทำตามขั้นตอนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนและอัยการ โดยทุกอย่างจะเป็นไปตามดุลพินิจของศาลยุติธรรม
โดยทาง ก.ล.ต. ได้ให้คำแนะนำต่อผู้ที่ใช้แพลตฟอร์มของ Binance ไปแล้วว่าการเข้าใช้บริการของทาง Binance ที่ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกหรือใช้บริการต่าง ๆ จะไม่มีความผิด แต่ก็จะไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายของไทยด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องมีความระมัดระวังให้มาก ถ้าถูกชักชวนเพื่อการซื้อ-ขายหรือแลกเปลี่ยนที่ดูผิดปกติ รวมไปถึงการรับฝากโอนเงิน, ถอนเงิน และการทำธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล จงระวังให้ดี! มีการวิเคราะห์และพิจารณาอยู่เสมอ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง เนื่องมาจาก Binance ประกอบธุรกิจ Exchange ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่ยังไม่ได้ยื่นขอใบอนุญาตแต่อย่างใด
คอมเมนต์