Cryptointrend
phishing-scam cybersecurity

เตือนภัย! หลงเชื่อ ซื้อ-ขาย บิตคอยน์กับมิฉาชีพ เสี่ยงหมดตัว

เมื่อเหรียญคริปโตฯ ชื่อดังอย่างบิตคอยน์ เริ่มมีมูลค่าสูงและเหรียญอื่น ๆ ก็สามารถทำกำไรสูงตามมาแบบติด ๆ จึงทำให้นักลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องทั่วโลก ต่างก็หันมาสนใจเงินดิจิทัลในรูปแบบเหรียญคริปโตเคอเรนซี่กันมากขึ้น จึงทำให้เกิดการหลอกลงจากเหล่ามิจฉาชีพในรูปแบบต่าง ๆ ตามมา จึงพาให้ผู้ถือเหรียญบิตคอยน์หลายรายต้องสูญเสียเงินหลักล้าน ซึ่งล่าสุดเกิดเป็นประเด็นที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศถูกหลอกด้วยสารพัดวิธี เพื่อขโมยเหรียญบิตคอยน์ โดยแต่ละคนนั้นต่างก็ถูกขโมยกว่าหลักล้านบาทเกือบทั้งหมด

ถูกหลอกดักบิตคอยน์ที่พาสูญเสียกว่า 15 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2021 ทีผ่านมา มีรายงานจากสำนักข่าว South China Morning Post ระบุว่าพนักงานของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ถูกหลอกจากมิจฉาชีพในขณะทำการซื้อ-ขายเหรียญบิตคอยน์ จนทำให้ต้องสูญเสียเงินมูลค่ากว่า 15 ล้านบาทหรือ 3.85 ล้านเหรียญฮ่องกง โดยวิธีการคือมิจฉาชีพติดต่อเพื่อจะขอขายบิตคอยน์ให้และขอรับเป็นเงินสด ซึ่งการพบกันเพื่อการซื้อขายนั้นเป็นการนัดหมายแบบตัวต่อตัว จึงทำให้เหยื่อตายใจ มิจฉาชีพได้ปลอมเป็นผู้ขายบิตคอยน์มาพบกับพนักงานบริษัททั้ง 2 คน เมื่อมีการมอบเงินสดให้กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้ที่มาหลอกลวงก็ได้เดินออกจากร้านไป พร้อมกับเงิน 1 คน และอ้างว่าต้องการดำเนินเรื่องเอกสารต่าง ๆ โดยจะทิ้งอีกคนไว้ให้เหยื่อยังคงรู้สึกอุ่นใจอยู่บ้าง

แต่จากนั้นก็หายไปในระยะเวลานาน จึงทำให้พนักงานทั้ง 2 พามิจฉาชีพอีก 1 คนที่ยังอยู่ด้วยกัน เดินออกไปหาอีกคนที่หายไปพร้อมกัน แต่สุดท้ายก็ได้วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว จึงทำให้พนักงานทั้ง 2 ที่ถูกโกงเหรียญบิตคอยน์ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจทันที ยังโชคดีที่เพื่อนของพนักงานชายที่มาด้วยกันสามารถวิ่งไล่ตามจับมิจฉาชีพ 1 คนได้ที่ลานจอดรถของตึก Park Tower พร้อมส่งให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนหัวขโมยอีกรายสามารถหนีไปได้และหอบเงินสดจำนวนมากติดตัวไปด้วย ดังนั้นจึงกลายมาเป็นรูปแบบใหม่ของการหลอกลวงผู้ที่มีเหรียญบิตคอยน์และมีเหยื่อที่ถูกฉ้อโกงในลักษณะเดียวกันภายในประเทศจีนเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว

สำหรับภายในประเทศไทยแล้วก็มีมิจฉาชีพที่ลักษณะคล้ายกัน แต่จะมีวิธีการที่ค่อนข้างแยบยลกว่า ดังเช่นในช่วงของวันที่ 18 มกราคม 2564 มีผู้ใช้บริการที่เป้นลูกค้าของเว็บไซต์ซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยนเหรียญบิตคอยน์ชื่อดังอย่าง Bitkub ถูกกลุ่มมิจฉาชีพสวมรอยเป็นพนักงานของทาง Bitkub เพื่อหลอกให้ลูกค้าส่งข้อมูลสำคัญของบัญชีบิตคอยน์ให้ จากนั้นได้ทำการเข้าถึงบัญชีเหรียญคริปโตฯ ของผู้เสียหายและทำการโอนเหรียญออกจนเกิดมูลค่าความเสียหายกว่า 5 แสนบาทเลยทีเดียว

ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นการหลอกดักลูกค้าของทาง Bitkub ในช่วงเวลาที่เว็บไซต์เกิดปัญหาด้านการสื่อสารและจำเป็นที่จะต้องหยุดให้บริการชั่วคราว นอกจากนี้ยังมีผู้ถูกแฮกบัญชีอีเมล์ จึงทำให้มิจฉาชีพเข้าไปโอนเหรียญคริปโตฯ เป็นจำนวนมากอีกด้วย

ซึ่งทางเว็บไซต์ Bitkub เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงเข้ามาตรวจสอบระบบและให้ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความ แต่ด้วยอุปสรรคของกฎหมายไทยที่ยังไม่เอื้อประโยชน์ให้กับการคุ้มครองเหรียญคริปโตเคอเรนซี่มากนัก จึงทำให้ผู้เสียหายได้แค่เพียงแจ้งความไว้กับทางสถานีตำรวจเท่านั้น เมื่อเว็บไซต์ Bitkub กลับมาใช้งานได้ใหม่อีกครั้ง ยังโชคดีที่มิจฉาชีพสามารถโอนบิตคอยน์ไปได้เพียงแค่ 1 แสนบาท จึงถือว่าเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของผู้มีบัญชีบิตคอยน์และเว็บไซต์สื่อกลางทางการเงินดิจิทัลเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้การถูกขโมยเหรียญนั้นยังมาจากการ Phishing ในรูปแบบต่าง ๆ ที่เพียงแค่คุณคลิกหรือตอบคำถามใด ๆ มิจฉาชีพก็จะสามารถนำข้อมูลของคุณไปสู่การเข้าถึงบัญชีบิตคอยน์ได้ทันที และอาจโอนมูลค่าของเหรียญไปได้อย่างง่ายดาย ซึ่งนักลงทุนคนไทยบางรายสูญเสียเงินหลักล้านบาทจากการถูก Phishing ด้วยเช่นกัน

โดยมีรายหนึ่งที่สูญเสียเหรียญบิทคอยเป็นมูลค่าสูงกว่า 2.122 BTC และสูญเสีย Ethereum ไปอีก 24.34 ETH รวมเป็นจำนวนเงินกว่า 3 ล้านบาท เพราะเพียงแค่ถูกมิจาชีพใช้ Phishing มาหลอกให้ตอบคำถาม Seed 24 คำ ซึ่งทางเจ้าของบัญชีเองยอมรับว่าตนนั้นยังถือว่ามือใหม่มาก จึงยังรู้ไม่ทันกลโกงมากนักและตอนนี้ก็ยังทำใจแทบไม่ได้ เพราะซื้อเหรียญทิ้งไว้ตั้งแต่ปี 2018 เมื่อเข้ามาดูบัญชีอีกครั้งกลายเป็นจำนวนเงินที่เพิ่มพูนขึ้น ดังนั้นจึงถือว่าเป็นบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนหลาย ๆ คนควรศึกษาไว้และระมัดระวังให้มากที่สุด

Satoshi

ไม่ได้เป็นคนสร้าง Bitcoin แต่เป็นหนุ่มน้อยที่มีจุดหมายอย่างแรงกล้า
จะเป็น Pokemon Trainer อันดับ 1 ของโลก โดยมีโปเกม่อนคู่ใจคือ Pikachu!

คอมเมนต์

two × 1 =

บทความล่าสุด