ยุคนี้ต้องยอมรับว่า Binance Smart Chain กลายมาเป็นที่สนใจของนักลงทุนในหลายประเทศเพิ่มมากขึ้น เพราะสามารถพัฒนาระบบภายในให้ใช้งานสอดคล้องกับนักลงทุนยุคนี้ได้เป็นอย่างดี พร้อมให้ค่าดำเนินการที่ไม่สูงมากและมีการอัพเดทระบบของตัวเองอยู่เสมอ แม้แต่ในประเทศไทยเองต้องยอมรับว่า Binance Smart Chain เริ่มกระจายชื่อเสียงออกมาให้เป็นที่รู้จักกันมากยิ่งขึ้น
Binance Smart Chain คืออะไร?
เมื่อตลาดของเหรียญคริปโตเคอเรนซี่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและพัฒนาไปสู่รายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้นักลงทุนทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น ต่างก็หันมาสนใจการลงทุนในรูปแบบของสกุลเงินดิจิทัลกันมากที่สุด
ดังนั้นผู้ที่เป็นสื่อกลางของการซื้อ-ขายจึงกลายมาเป็นคนสำคัญที่จะทำให้นักลงทุนทุกคนเข้าถึงตลาดได้มากขึ้น ซึ่งหนึ่งในผู้ให้บริการซื้อ-ขายที่กลายมาเป็นทางเลือกสำคัญของนักลงทุนในยุคนี้ และได้รับความนิยมอย่างมากจากนักลงทุนคนไทย คือ Binance Smart Chain
โดยเฉพาะการลงทุนในตลาด DeFi เพราะ Binance ถือว่าเป็นผู้ให้บริการที่อัพเกรดตัวเองอยู่เสมอ มีการพัฒนาระบบภายในอยู่ตลอดเวลา พร้อมด้วยค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับทางบริษัทใหญ่อย่าง Ethereum แล้ว Binance ถือว่ามีค่าดำเนินการต่าง ๆ ที่ถูกกว่า ที่สำคัญคือการพัฒนาระบบภายในที่จะมีอยู่เสมอ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของนักลงทุนได้มากที่สุด
สำหรับ Binance ถือกำเนิดมาในช่วงปี 2019 ด้วยการใช้ชื่อว่า Binance Chain นำเสนอ Product สำคัญอย่าง Binance DEX หรือตลาดแบบไร้ตัวกลาง ที่กลายมาเป็นหนึ่งในทางเลือกสำคัญของนักเทรดยุคใหม่
ทำหน้าที่เป็น Centralized Exchange ที่นักลงทุนจะสามารถเข้าใช้งานได้อย่างเป็นอิสระ เมื่อ Decentralized Binance หรือตลาด DeFi ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น ทาง Binance ซึ่งได้ตัดสินใจที่จะพัฒนารูปแบบของโปรโตคอลที่อยู่ภายใน DeFi ใหม่ทั้งหมดและปรับปรุง พร้อมพัฒนาตนเองขึ้นสู่การเป็น คือ Binance Smart Chain มาจนถึงปัจจุบัน
ความโดดเด่นของการทำงานภายใน คือ Binance Smart Chain คือ เรื่องของการสร้างรูปแบบ Smart Contact ที่กลายมาเป็นต้นแบบของหลาย ๆ บล็อกเชน โดยพัฒนาจากภายนอกด้วยการสร้างไฟล์โปรโตคอลในรูปแบบของ Binance ขึ้นมาบนเครือข่ายของ Ethereum
ซึ่งในช่วงแรกนั้นการใช้ Ethereum เป็นเครือข่ายหลักของการสร้าง DeFi โปรโตคอล เกิดปัญหาเรื่องของการแลกเปลี่ยนที่ล่าช้าและค่าธรรมเนียมพุ่งสูงขึ้น จึงทำให้ฝ่ายพัฒนาของ Binance ต้องเลือกเส้นทางใหม่ เพื่อทำให้เกิดการใช้งานที่ดีขึ้นกว่าเดิมและปิดจุดด้อยต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในช่วงที่ใช้บนเครือข่ายของทาง Ethereum
และไม่นานทางนักพัฒนาของ Binance ได้ทำการสร้าง DeFi โปรโตคอลขึ้นบนเครือข่ายของตัวเอง พร้อมการพัฒนาแพลตฟอร์มซื้อ-ขายสกุลเงินดิจิทัลที่โดดเด่น สามารถปิดจุดด้อยต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดีและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมการรองรับต่อโปรโตคอลที่เคยมีการพัฒนาบนเครือข่ายของทาง Ethereum มาก่อน เพื่อทำให้สามารถที่จะเข้ามาใช้งานตัวละครต่าง ๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
คุณสมบัติเด่นของ DeFi โปรโตคอลจากทาง Binance คือ เมื่อปี 2020 ช่วงเดือนเมษายน ได้มีการตรวจสอบและวิเคราะห์เหล่าโปรโตคอลที่เติบโตภายใน DeFi ปรากฏว่ามีเป็นจำนวนมากและแต่ละโปรโตคอลสามารถที่จะพัฒนาตนเองให้มีระดับที่สูงขึ้นได้เรื่อย ๆ
เกิดเป็นอีกหลายโปรโตคอลที่มีชื่อเสียงด้วยกัน เช่น Pancake Swap, Uniswap, Sushi Swap, 1Inch, โปรเจ็คต์ Alice, DODO และโปรเจ็คต์ของคนไทยเองยังมีไปปรากฏอยู่บน Binance Smart Chain ของตลาด DeFi ด้วยเช่นกัน
ทำไม Binance Smart Chain จึงได้รับความนิยมสูงในไทย
เมื่อไม่นานมานี้ทางเว็บไซต์ผู้สำรวจการใช้งานตลาดซื้อ-ขายสกุลเงินดิจิตอลของโลกอย่าง similarweb.com ได้ปรากฏข้อมูลของกลุ่มประเทศที่เข้าชมเว็บไซต์ของ Binance Smart Chain โดยเป็นการเรียงลำดับจากประเทศที่เข้าชมและดูรายละเอียดต่าง ๆ มากที่สุด ซึ่งอันดับที่ 1 นั้นปรากฏว่าเป็นประเทศไทยมียอดการเข้าชมสูงถึง 9.32% รองลงมาคือประเทศ United States, ฝรั่งเศส, ตุรกี และ United Kingdom ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงการมาของ Binance Smart Chain ที่คนไทยมีความสนใจต่อตัวกลางในตลาด DeFi เจ้านี้เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้การเข้าใช้งานของ Pancake swap ที่ถือเป็นโปรโตคอลอันดับ 1 ของทาง Binance Smart Chain ก็มีคนไทยเข้าใช้งานสูง ถือเป็นอันดับที่ 2 ของโลกเลยทีเดียว โดยมียอดการเข้าใช้ถึง 5.19% ส่วนอันดับที่ 1 นั้นจะเป็นประเทศ United States of America อยู่ที่ 8.73% ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ทำให้ได้เห็นว่าตลาดของ DeFi กับ Binance Smart Chain กำลังมาในกลุ่มของคนไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อาจจะช่วยทำให้นักลงทุนรุ่นใหม่ได้มองเห็นช่องทางของการทำเงินที่ดีมากขึ้น ดังนั้นจึงถือว่าเป็นข่าวที่ดีสำหรับมือใหม่ที่ต้องการหาช่องทางลงทุนอื่น ๆ ที่นอกเหนือไปจาก Bitcoin หรือ BTC อีกด้วย
คอมเมนต์