เมื่อวานนี้มีการเปิดตัวดาวเทียม Starlink 60 ดวงเข้าสู่ในวงโคจรจากยาน Falcon 9 ของ SpaceX ทำให้บริษัทของ Elon Musk มีกลุ่มดาวเทียมที่ใหญ่ที่สุดในวงโคจร แล้วมันจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อวงการคริปโตเคอเรนซี่บ้าง ?
Space X กับดาวเทียม
Falcon 9 เป็นจรวดเช่นเดียวกับดาวเทียมอีก 60 ดวง ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2019 ที่จะนำการสื่อสารความเร็วสูงขึ้นให้กับโลกและส่งสัญญาณได้กว้างไกลมากขึ้น โดย Space X ทวิตคลิปการปล่อยดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรสำเร็จลงในโซเชียล
การทดสอบ “การเผาไหม้แบบคงที่” ได้ดำเนินการเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการเตรียมการมาตรฐานและในช่วงเหตุการณ์สำคัญที่ผ่านมาก่อนจะเริ่มขึ้น ในระหว่างการทดสอบเครื่องยนต์ Merlin 1D ทั้ง 9 ตัวในสเต็ปแรกนั้นประสบความสำเร็จ
โดยสเต็ปที่สองคือการปล่อยตัว ซึ่ง Space X ทำสำเร็จในเวลา 9.19 pm(EST) วัดตามเวลาจากสถานีดาวเทียมที่ฟลอริด้า
ผลกระทบต่อคริปโตเคอเรนซี่
ในปี 2019 SpaceX ของ Elon Musk เปิดตัวภารกิจของบริษัททั้งหมด 13 ครั้งโดยมีภารกิจสุดท้ายที่ดำเนินการสื่อสารผ่านดาวเทียมที่มีน้ำหนักมากสำหรับผู้ให้บริการบรอดแบนด์ญี่ปุ่นและ startup ที่สิงคโปร์ในวันที่ 16 ธันวาคม 2019
การเปิดตัวดาวเทียมทั้งหมดในวันนี้แปลว่า Space X ของ Elon Musk นั้นมีดาวเทียมโคจรอยู่ถึง 180 ดวง เป็นวงโคจรที่ใหญ่ที่สุด ถึงจะเป็นรื่องที่น่าสนใจ แต่ก็เคยมีนักธุรกิจชาว อัฟริกัน ที่เคยบอกว่าเขามีแผนที่จะพัฒนากลุ่มดาวเทียมและสร้างมันมากกว่า 40,000 ดวง
Falcon 9 ที่ทำภารกิจ 3 ชิ้นประสบความสำเร็จ และดาวเทียม Starlink ชุดที่สามนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ “มอบการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตทั่วโลก”
และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ทั่วโลก ก็แปลว่าเราจะเข้าถึงคริปโตเคอเรนซี่ได้มากขึ้น ถึงแม้หลาย ๆ คนจะยังไม่มั่นใจในตัว bitcoin สักเท่าไหร่ก็ตาม
LINK ที่มา
คอมเมนต์